วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แนะนำเส้นทาง

เส้นทางเที่ยวเองตามภูมิภาคต่างๆในระยะเวลา 5-7 วัน
 


1. เส้นทางเหนือสุด จาก Tokyo ไปกลับ Hokkaido ภายใน 7 วันที่พัก
วันแรก จาก  TokyoHachinohe Hakodateเมือง Hakodate
วันที่ 2 Hakodateสวน Onumaทะเลสาบ Toyaเมือง Sapporo
วันที่ 3 Sapporoเมืองท่า Otaruสวนสาธารณะ Odoriเมือง Sapporo
วันที่ 4 SapporoAsahikawaสวนสัตว์ Asahiyamaเมือง Asahikawa
วันที่ 5 Asahikawaบ่อน้ำแร่ Sounkyooน้ำตก RyuseiและGingaเมือง Asahikawa
วันที่ 6 Asahikawaทุ่งดอกไม้เมือง Furanoเมือง Bieiเมือง Sapporo
วันที่ 7 Aomori ปราสาท HirosakiHachinohe เมือง Tokyo
2. เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Tohoku)จากโตเกียวไปกลับภายใน 7 วัน
วันแรก จาก  TokyoHachinohe Oirase,ทะเลสาบTowadaเมือง Aomori
วันที่ 2 Aomoriชมเมือง ปราสาท Hirosakiเมือง Akita
วันที่ 3 Akitaชมเมือง Kakunodateทะเลสาบ TazawaNaruko spa
วันที่ 4 Narukoวัด Chusonjiชายทะเล Matsushimaเมือง Sendai
วันที่ 5 SendaiYamagataชมเขา Mt.Zaoเมือง Nikko
วันที่ 6 Nikkoชมน้ำตก Kegonศาลเจ้ามรดกโลก Toshoguเมือง Nikko
วันที่ 7 Nikkoสวนสนุก Edomuraเมืองจำลอง Tobu World Square Tokyo
3. ภาคกลาง (Chubu) จากโตเกียว ไปกลับ 7 วัน
วันแรก จาก Tokyo ชมวัด Zenkoji Naganoปราสาท Matsumotoเมือง Matsumoto
วันที่ 2 Matsumotoเที่ยวที่ราบสูง  Kamikochiเมือง Matsumoto
วันที่ 3 Matsumotoเที่ยวเมืองเก่า  Tsumagoเมือง Matsumoto
วันที่ 4 MatsumotoShinano Omachiชมเทือกเขาแอลป์ Tateyamaเมือง Toyama
วันที่ 5 ToyamaKanazawaหมู่บ้านมรดกโลกShirakawagoเมือง Takayama
วันที่ 6 Takayamaชมตลาดเช้า TakayamaGifuเมือง Gero
วันที่ 7 Nagoyaเที่ยวหมู่บ้านเมจิ ชมปราสาท Nagoya Tokyo
4. ภาคตะวันตกสุด (Chugoku) ไปกลับ 5วัน
วันแรก HiroshimaMiyajimaพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ เมือง Hiroshima
วันที่ 2 Hiroshimaปราสาท HimejiOkayama Kurashikiเมือง Hiroshima
วันที่ 3 Hiroshimaสะพาน Kintaiบ่อน้ำแร่ Yudaบ่อน้ำแร่ Yuda
วันที่ 4 ShinyamaguchiAkiyoshidaiถ้ำ Akiyoshidiเมือง Hagi
วันที่ 5 Hagiพิพิธภัณฑ์ HagiOld Town Hiroshima
5. ภาคใต้ (Kyushu) ไปกลับ Fukuoka 5วัน
วันแรก Fukuokaชมบ่อน้ำแร่ Beppuเมือง Yufuinเมือง Oita
วันที่ 2 OitaMt.Asoปราสาท Kumamotoเมือง Kumamoto
วันที่ 3 KumamotoNagasakiชมเมืองเมือง Nagasaki
วันที่ 4 Nagasakiเที่ยวรีสอร์ท Huis Ten Boschเมือง Fukuoka
วันที่ 5 Fukuokaชมศาลเจ้า Dazaifuเมือง Fukuoka

ภาคใต้ (คิวชู และเกาะโอกินะวะ)




ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเกาะหลักฮอนชู มีอากาศที่อบอุ่น ชนบทที่เขียวชอุ่ม บ่อน้ำแร่และภูเขาไฟที่เร้นลับเนื่องจากอยู่ใกล้จีนและเกาหลี จึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 อีกทั้งเป็นจุดแรกที่ติดต่อกับทางตะวันตกซี่งชาวโปรตุเกสได้เข้ามาเทียบท่าเมื่อศตวรรษที่ 16

เมืองฟุกุโอะกะ (Fukuoka) เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนนานาชาติกับเอเชีย มีชื่อเสียงด้านสิ่งทอ ห่างจากโตเกียว 6 ชั่วโมงโดยทางรถไฟด่วนพิเศษชินคันเซน หรือ 3 ชั่วโมงจากชินโอซาก้า ซึ่งเป็นชุมทางรถไฟสู่คิวชู สถานที่เที่ยวในเมืองมีพิพิทธภัณฑ์ศิลปเอเชียฟุกุโอะกะ ที่น่าแวะชมในฐานะหน้าต่างแห่งเอเซีย


ศาลเจ้าดะไซฟุ ห่างจากเมืองฟุกุโอะกะเพียง 20 นาทีโดยทางรถยนต์ มีแหล่งโบราณคดีซึ่งค้นพบในบริเวณใกล้เคียง เทศกาลฮะกะตะ ดงทะกุและเทศกาลยะมะงะซะ เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้

 
เมืองนะงะซะกิ (Nagasaki) เป็นเมืองท่าแห่งเดียวที่โชกุนโตคุกะว่าได้เปิดทำการค้ากับต่างประเทศ ระหว่างปีค.ศ. 1639 -1859 จึงมีบ้านพักชาวต่างชาติที่สร้างเป็น อาคารแบบตะวันตกโกเวอร์การ์เด้น และ โบสถ์คาทอลิคโออุระ ซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติที่น่าแวะชม

ปราสาทชิบะบะระ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงบันทึก และเอกสารเกี่ยวกับนักบุญคริสเตียนผู้ยืนหยัดต่อต้านโชกุน


สวนสันติภาพนะงะซะกิ เป็นอนุสรณ์สถาน ที่สร้างบนศูนย์กลางของเป้าโจมตีโดยระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากฮิโรชิม่าเพียง 3 วัน เฮ้าส์เทนบอส เป็นรีสอร์ทสวนสนุกที่สร้างแบบฮอลแลนด์ ที่มีทุ่งทิวลิปและดอกไม้สวยงามมาก

อุทยานแห่งชาติอุนเซน ห่างจากเมืองนะงะซะกิ 2 ชม.โดยทางรถยนต์ มีภูเขาอุนเซนและแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติบนที่ราบสูงและชายทะเล

เมืองซะงะ (Saga) อยู่ติดกับนะงะซะกิ เป็นแหล่งผลิต เครื่องปั้นดินเผาอะริตะยะคิ ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

 
เมืองคุมะโมะโตะ(Kumamoto) ห่างจากสถานีฮะคะตะเพียง 1.30 ชม.โดยรถไฟด่วน มีปราสาทคุมะโมะโตะ สวนซุยเซนหยิเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติอะโซะคุหยิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟอะโซะ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและภูเขาคุยิ


เมืองเบปปุ (Beppu) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของเกาะคิวชูเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำแร่ที่เป็นบ่อโคลน(หลากสี) จัดเป็นเมืองที่มีรีสอร์ทน้ำแร่มากที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถลองแช่น้ำแร่หลายหลากชนิดได้

เมืองน้ำพุร้อนยุฟุอิน (Yufuin) ก็อยู่ในจังหวัดโอะอิตะ (Oita) ไม่ไกลจากเมืองเบปปุ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามและเป็นเมืองต้นแบบที่รวมกลุ่มผลิตสินค้าหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งผลิตภัณฑ์ ออกจำหน่ายและประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวด้วย


เมืองมิยะซะกิ (Miyazaki) อยู่ห่างจากเมืองโอะอิตะ 3 ชม. ครึ่งโดยรถด่วนจำกัดความเร็ว เป็นเมืองที่มีรีสอร์ทแบบทะเลเปิดปิดได้ ทางใต้มีอุทยานแห่งชาติเลียบชายฝั่งทะเล นิจินัน ระยะทาง 100 กม. และยังมี น้ำตกทะคะจิโฮ ในช่องเขาที่สวยแปลกตามาก


เมืองคะโงะชิมะ (Kagoshima) ห่างจากเมืองมิยะซะกิ 2.20 ชม.โดยทางรถไฟด่วนจำกัดความเร็ว เมืองนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ บ่อน้ำแร่ซึ่งเป็นผลมาจากภูเขาไฟซากุระหยิมะ ที่ยังครุกรุ่นอยู่ ทางตอนใต้มีเมือง อิบุซุกิ จึงมีที่พักตากอากาศและ สถานอบทรายริมทะเล ตั้งอยู่ใต้สุดของคาบสมุทร ซะทจึมะ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสัมผัสประสบการณ์อบทรายร้อนริมทะเล ที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้มาก


โอะกินะวะ (Okinawa) เป็นเกาะใต้สุดของญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลจากจีนและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีวัฒนธรรมต่างจากเมืองอื่นในญี่ปุ่นตั้งอยู่ห่างจากโตเกียว 2.30 ชม. ทางเครื่องบิน มีเมือง นะฮะ (Naha) เป็นศูนย์กลาง


ปราสาทชุริ สมัยราชวงศ์ริวกิว เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น อีกทั้งศาลเจ้า และวัดโซเกนหยิที่สวยงาม มีชายหาดสีขาวบริสุทธิ์และแนวปะการังสมบูรณ์ที่ชวนหลงใหลมาก เหมาะสำหรับผู้ที่รักทะเลใสและหาดทรายสวย

ภาคตะวันตก (จูโงะกุ)




ภูมิภาคจูโงะกุนั้น เต็มไปด้วยหมู่บ้านและเมืองที่เงียบสงบสวยงามหลายแห่งตั้งกระจายกันอยู่เป็นระยะ ลักษณะเป็นหมู่บ้านประมงชายทะเลและหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งหลักแหล่งตามทิวเขา เหมาะสำหรับเยี่ยมชมทิวทัศน์ที่ชวนให้รำลึกถึงอดีต และคงกลิ่นอายของญี่ปุ่นดั้งเดิมได้อย่างดีที่สุด 

จูโงะกุ ตั้งอยู่สุดตะวันตกของเกาะหลักฮอนชู แบ่งเป็นสองส่วนคือ ซันโย ชายฝั่งเกาะกลางทะเลใน และ ซันอิน ชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น


เมืองโอะกะยะมะ (Okayama) จากชิน-โอซาก้าใช้เวลา 1 ชม.โดยรถไฟด่วนพิเศษชินคันเซน เมืองนี้ถือเป็นประตูสู่ภูมิภาคจูโงะกุและเกาะชิโกะกุ มี สวนโคระคุเอ็ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เต็มไปด้วยดอกไม้ตลอดทั้งปี เป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างขึ้นในปี 1700 โดยตระกูลขุนนางยุคศักดินาโอะกะยะมะ ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 14 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์


เมืองคุระชิกิ (Kurashiki) เป็นเมืองที่คงความงดงามในอดีตผสมผสานไปกับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาได้อย่างเหมาะเจาะ สามารถมาถึงได้ในเวลาเพียง 15 นาทีโดยรถไฟจากโอะกะยะมะ หากเดินเล่นตามถนนสายเล็กเหล่านั้น หนึ่งในสี่ส่วนของถนน จะเต็มไปด้วยร้านเก่าแก่ มีหลังคาบ้านเป็นลักษณะเฉพาะตัวซึ่งเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้ เมืองคุระชิขิเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ หนึ่งในนั้นคือ ห้องแสดงศิลปะโอฮาระ ซึ่งรวบรวมภาพวาดและงานแกะสลักที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงงานหัตถกรรมแบบญี่ปุ่นพื้นเมืองและผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมซึ่งมีเอกลักษณ์แบบตะวันออก


เมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) ก่อนนี้เคยเป็นเมืองที่ตั้งของปราสาท เดินทางจากชิน-โอซาก้า 2 ชม.โดยรถไฟด่วนพิเศษชินคันเซน ปัจจุบันเป็นเมืองที่เกิดใหม่หลังการทิ้งระเบิดปรมาณูในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง มี สวนอนุสรณ์สันติภาพ ในเมือง ฮิโรชิม่า ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก บริเวณใกล้ๆมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพที่รวบรวมภาพถ่ายขนาดใหญ่ และสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความพินาศในครั้งนั้น


จากเมืองฮิโรชิม่า โดยรถไฟ 30 นาที ถึงสถานีมิยะหยิมะ-กุจิ แล้วต่อเรืออีก 10 นาที มุ่งหน้าไปยัง เกาะมิยะจิมะ ซึ่งมีศาลเจ้าอิทสุกุชิมะ ตั้งอยู่ริมทะเล พื้นที่ของตัวเกาะทั้งหมด 30 ตารางกิโลเมตร ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ให้เป็นเกาะแห่งประวัติศาสตร์ และสถานที่ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นพิเศษ ตัวอาคารศาลเจ้าเชื่อมต่อกับทางเดินที่ทอดยาวออกไปเหนือน้ำ ดังนั้น เวลาระดับน้ำขึ้นสูงจนทางเดินจมหายไป จะมองเห็นแต่เพียงตัวอาคารลอยอยู่กลางทะเล ทางเข้าศาลเจ้าที่มีลักษณะเป็นซุ้มสองเสาทำจากต้นการบูรแดงที่ผุดขึ้นกลางทะเล เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของศาลเจ้านี้ งานเทศกาลรื่นเริงของที่นี่มีอยู่ตลอดทั้งปี แต่ที่สำคัญที่สุด คือ เทศกาลคันเก็นไซ ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม หรือเดือนสิงหาคม

เมืองฮะงิ (Hagi) ใกล้สถานีรถไฟฮิงะชิ-ฮะงิ เดินทางจากสถานีรถไฟชิน-ยะมะงุจิ โดยรถบัส 1.10 ชม. เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งของปราสาทที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และเป็นที่อยู่ของเหล่าซามุไรที่มีชื่อเสียงในอดีต นอกจากนี้ยังมี เครื่องปั้นดินเผาฮะหงิยาคิ ที่ขึ้นชื่อด้วย


เมืองทตโตะะริ (Tottori) ใช้เวลา 4.20 ชม.จากโอซาก้า โดยรถไฟด่วนจำกัดความเร็ว สันทรายคล้ายทะเลทรายอยู่เลยไปทางเหนือ 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติซัน-อิน ไคงัน หากเยี่ยมชมสันทรายนี้แต่เช้าตรู่ จะได้พบกับความสวยงามบนพื้นผิวของสันทรายที่ยามค่ำคืนจะถูกลมและฝนทำให้เกิดลวดลายต่างๆ

เมืองมะทสุเอะ  (Matsue)เดินทางโดยรถไฟด่วนจำกัดความเร็วจากโทตโตะริ ใช้เวลา 4.20 ชม. เมืองนี้ตั้งอยู่ที่จุดซึ่งทะเลสาบน้ำตื้นนะกะอุมิไหลมารวมกับทะเลสาบชินจิ เป็นเมืองศูนย์กลางที่สำคัญ และจุดหมายปลายทางของแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดชิมะเนะ อยู่ในเมืองอิซุโมะที่เก่าแก่เกี่ยวข้องกับตำนานต่างๆของญี่ปุ่น


ศาลเจ้าอิซุโมะ ไทชะ เดินทางจากสถานีอิซุโมะชิ ใช้เวลา 10 นาทีโดยรถไฟ มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ย้อนกลับไปหลายพันปี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรให้มีความผาสุกในชีวิตสมรส ดึงดูดให้หญิงสาวที่ศรัทธาเดินทางมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก

เกาะชิโกะกุและหมู่เกาะทะเลใน (เซโตะไนไค)





เส้นทางชิมะนะมิ-ไคโดที่เพิ่งเปิดใช้เมื่อไม่นานมานี้ เชื่อมต่อกับเกาะหลักฮอนชูและชิโกะกุ ด้วย 7 สะพานที่งดงามยิ่ง ระหว่างเส้นทางหลวงจากสะพานข้ามไปยังเกาะกลางทะเลในเซโตะ จะได้พบกับทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสีฟ้า แต่งแต้มไปด้วยเรือใหญ่เล็กมากมาย และเสน่ห์ลึกล้ำของเหล่าเกาะเล็ก

เกาะกลางทะเลในเซโตะ หรือที่เรียกกันว่า เซโตะ-ไนไค ล้อมรอบด้วยสามเกาะใหญ่ คือ เกาะฮอนชู เกาะชิโกะกุ และเกาะคิวชู ปัจจุบันการเดินทางข้ามเกาะฮอนชูและเกาะชิโกะกุเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก เนื่องจากสะพานทั้งเจ็ดนี้ รวมถึง สะพานเซโตะ, สะพานอะคะชิ-ไคเคียว, สะพานชิมะนะมิ-ไคโดะ หรือโดยสารเรือข้ามฟากและเรือเฟอร์รี่ที่บริการรับส่งจากสองเกาะมุ่งหน้าไปยังเมืองโอซาก้า โกเบ ฮิโรชิม่า โอโนะมิจิ และวะกะะยะมะ
ที่เกาะกลางทะเลใน มีทิวทัศน์งดงาม อากาศอบอุ่น สงบเงียบและสวยงาม บริเวณโดยรอบ มีเกาะกว่า 600 เกาะกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณภายในระยะทาง 8,200 ตารางกิโลเมตร ที่นี่สามารถเดินหรือปั่นจักรยานไปตามเส้นทางชิมะนะมิ-ไคโดะ (ระยะทางยาว 60 กิโลเมตร) เพื่อชมวิวอันสวยงามของสะพานทั้ง 7 ซึ่งเชื่อมต่อไปยังเกาะที่เล็กกว่าอีกหกเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะฮอนชูกับเกาะชิโกะกุ มองเห็นทัศนียภาพของท่าเรือหมู่บ้านประมง นาเกลือ และไร่นา สิ่งเหล่านี้พบได้ตามทางลาดของเกาะ

หมู่บ้านวัฒนธรรมนาโอชิมะ ที่ตั้งอยู่บนเกาะนาโอชิมะ ซึ่งเป็นเกาะกลางทะเลใน เดินทางจากโอกะยะมะ ใช้เวลา 1.30 นาที โดยทั้งทางรถไฟ ทางเรือ และทางรถยนต์ ที่หมู่บ้านแห่งนี้ มีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย และสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับธรรมชาติเงียบสงบที่แวดล้อมอยู่โดยรอบของเกาะ

เกาะชิโกะกุ ประกอบด้วย 4 เมือง แต่ละเมืองนั้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของปราสาท ภาพธรรมชาติอันสวยงามนั้น สามารถหาได้จากบริเวณชายฝั่งของเกาะกลางทะเลใน นอกจากนี้ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกก็เป็นอีกแห่งหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่โดดเด่นของเกาะชิโกะกุ การเดินทางเข้ามายังเกาะทำได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดบริการทางรถบัสระหว่างเมืองสำคัญต่างๆ ในภาคคันไซบนฝั่งฮอนชูกับเกาะชิโกะกุ


เมืองทะกะมะทสุ (Takamatsu) เดินทางจากโอกะยะมะ ใช้เวลา 1 ชม.โดยรถไฟ เมืองนี้เป็นทางเข้าหลักจากเกาะฮอนชูมาสู่เกาะชิโกะกุ และเหมาะที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปรอบๆเกาะ เมืองทะกะมะทสุนั้นมีสิ่งดึงดูดที่น่าสนใจมากมายมีค่าควรแก่การเยี่ยมชม อย่างสวนสาธารณะริทจึริน ที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในพื้นที่นี้ โดยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องตลอด 350 ปีจากตระกูลมัตซึไดระ


เมืองมะทสุยะมะ (Matsuyama) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในเกาะชิโกะกุ ห่างจากทะกะมะทสุ 3 ชม.โดยรถไฟด่วนจำกัดความเร็ว หรือเพียง 1 ชม.ทางเรือจากเมืองฮิโรชิม่าและเมืองคุเระ ปราสาทมะทสุยะมะเป็นอีกหนึ่งสมบัติของชาติที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด บ่อน้ำแร่โดโงะ ห่างจากมะทจึยะมะเพียง 20 นาทีโดยรถไฟ ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

เมืองโคจิ (Kochi) จากทะกะมะทสุโดยรถไฟด่วนจำกัดความเร็ว 3 ชม. เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยที่นาและการประมงเรียงรายตลอดแนวชายฝั่งใจกลางตอนใต้ของเกาะชิโกะกุ หากได้มาเยือนชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ จะพบอุทยานแห่งชาติและหลากหลายกิจกรรมกลางแจ้งตั้งแต่ดำน้ำด้วยสกูบ้าไปจนถึงการชมปลาวาฬ



เมืองโทกุชิมะ (Tokushima) สามารถเดินทางจากภูมิภาคคันไซโดยรถบัสสายพิเศษ ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. งานเทศกาลเต้นรำอะวะ-โอโดริของเมืองนี้เป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกหน้าร้อน ต่อมาคือ เมืองนะรุโตะ  ห่างจากเมืองโทกุชิมะ 40 นาทีโดยรถไฟ ที่นี่จะมีชื่อเสียงในเรื่องน้ำวนขนาดยักษ์บริเวณ ช่องแคบนารุโตะ หากต้องการความตื่นตาตื่นใจ สามารถนั่งเรือพาชมน้ำวนยักษ์นี้ได้ใกล้มากขึ้น 

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ภูมิภาคตะวันตก ( คันไซ )



ภูมิภาคคันไซเจริญก้าวหน้าในฐานะที่เป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของญี่ปุ่นยาวนานตั้งแต่สมัยอดีต คันไซเป็นภูมิภาคที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นอย่างชัดเจนแม้กระทั่งในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศที่พิเศษมาก สร้างความคึกคักให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี 


เมืองโอซาก้า (Osaka) ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียว 3 ชม. โดยรถไฟด่วนพิเศษชินคันเซน หรือ 1 ชม. โดยเครื่องบิน โอซาก้าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของญี่ปุ่น และเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำหรับญี่ปุ่นตะวันตก ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำโยโดะ โอซาก้ามีคลองที่เชื่องโยงกันไปมาภายใต้ถนนหลายเส้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่เมือง

ในฐานะที่เป็นเมืองดั้งเดิม จึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นต้นแบบของ ละครหุ่นกระบอกบุนระคุ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังไม่ควรพลาดชมอ่าวโอซาก้าซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางความทันสมัยที่สุด เดือนมีนาคม 2001 โอซาก้าเปิดสวนสนุกแห่งใหม่ซึ่งจำลองแบบจากฮอล์ลีวูด
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน เป็นสถานที่เที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกแห่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิม


ที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่งคือ ปราสาทโอซาก้า ครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1586 โดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปัจจุบันเป็นป้อมปราการสูงห้าชั้น จำลองแบบจากของเดิม เก็บรักษาศิลปะวัตถุโบราณหลายชิ้น ทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโทโยโทมิและโอซาก้าในอดีต

เมืองนะกะโนะชิมะ (Nakanoshima) เป็นเมืองศูนย์กลาง ตั้งอยู่บนพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำขนาดเล็กบริเวณแม่น้ำโยโดะ มี ศาลเจ้าเท็มมังหงุ ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับมิจิซะเนะ ซุงะวะระ นักวิชาการที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ใกล้กันนั้นเป็นถนนช้อปปิ้ง เท็นจินบะชิ ที่เจริญก้าวหน้ามาได้ยาวนาน ก็เพราะเหล่านักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนยังศาลเจ้าท้องถิ่นนี้นั่นเอง ทางเดินที่เต็มไปด้วยศูนย์การค้า พอจะทำให้เห็นได้บ้างถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนท้องถิ่น

สำหรับแหล่งบันเทิงและย่านช้อปปิ้ง พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องแวะมายัง ย่านอุเมะดะ และ ย่านนัมบะ ที่มีสถานีรถไฟ และศูนย์การค้าใต้ดินที่ทันสมัยอยู่จำนวนมาก สำหรับนักจับจ่ายซื้อของ  และนักชิมอาหาร “คุยดะโอเระ” ถนนนักชิมที่มีชื่อเสียงสมคำเล่าลือ ที่ว่าโอซาก้าเป็นเมืองสำหรับนักชิมอย่างแท้จริง อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น ยากิ-นิกุ (เนื้อย่าง) ฟุกุ-นาเบะ (ปลาปักเป้ากระทะร้อน)  ซูชิ และ ทาโกะ-ยากิ (ปลาหมึกปิ้ง)


เมืองโกเบ (Kobe) เดินทางโดยรถไฟเพียง 30 นาทีจากโอซาก้าเป็นเมืองท่าสำคัญที่เคยเป็นแหล่งพักอาศัยของชาวต่างชาติ จึงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงการปฏิรูปสมัยเมจิที่เริ่มขึ้นในปี 1868 เมืองนี้เต็มไปด้วยเนินเขา มีตรอกและทางเดินแคบๆคดเคี้ยวอยู่มากมาย มี
เขารอคโค ซึ่งมี บ่อน้ำแร่อะริมะออนเซน อยู่ไม่ไกลนัก เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มาเที่ยวชมวิวและแช่น้ำแร่

หอคอยอ่าวโกเบ มีความสูงถึง 108 เมตร สวยงามไปด้วยแสงไฟที่สว่างขึ้นในยามเย็น ตรงข้ามกันคืออ่าวโกเบ บ่งบอกถึงความก้าวหน้าใหม่ๆ ของเมืองริมฝั่ง ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบวิวยามค่ำคืนได้เป็นจำนวนมาก


เมืองฮิเมะจิ (Himeji) ที่ตั้งของ ปราสาทฮิเมะจิ เป็นปราสาทที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่คงรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ และ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สามารถเดินไปจากสถานีฮิเมะจิ ซึ่งไม่ไกลจากโอซาก้านัก

ศาสนสถานบน ยอดเขาโคยะ ขึ้นได้โดยนั่งรถไฟ 2 ชม. จากโอซาก้า ซึ่งสร้างขึ้นในปี 816 โดยโคโบะ ไดชิ ศาสดาของ
นิกายชินคอน ศาสนาพุทธ ศาสนสถานแห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดจำนวนมากกว่า 120 แห่ง มีห้องพัก 53 ห้องด้วยราคาเหมาะสม สำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ ในแต่ละปี มีผู้ที่ต้องการแสวงบุญเดินทางมาเยี่ยมเยียนถึง 1 ล้านคน

เกียวโต (Kyoto) และนารา (Nara)

สองเมืองหลวงเก่าแก่ แหล่งประเพณีและของล้ำค่าที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้ ยังคงสิ่งต่างๆในอดีตไว้ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา วัดต่างๆที่เป็นเครื่องหมายแห่งกาลเวลา และถนนเก่าแก่ที่เงียบสงบ ชวนให้นึกถึง “ประเทศญี่ปุ่น” ที่หลายคนวาดภาพไว้

เมืองเกียวโต (Kyoto) เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นเมื่อ 1,000 กว่าปีมาแล้ว ระหว่างช่วงเวลานั้น ก็กลายมาเป็นแหล่งที่ดีที่สุดที่รวบรวมศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนา และแนวความคิดต่างๆของญี่ปุ่น จากโตเกียวสามารถเดินทางโดยรถไฟด่วนชินคันเซน ใช้เวลา 2.40 ชม. และ 1.15 ชม. จากสนามบินระหว่างประเทศคันไซ ใกล้กับเมืองโอซาก้าศูนย์กลางของเกียวโต เป็นที่ตั้งของพระราชวังเกียวโต ที่มีชื่อเสียงสูงสุดทางด้านสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียบง่าย (หมายเหตุ : นักท่องเที่ยวต้องขอใบอนุญาตเข้าชม 20 นาที ก่อนรอบเช้า 10.00 น. หรือรอบบ่าย 14.00 น.) ใกล้กันนั้นคือ ปราสาทนิโจะ ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นมรดกโลก ที่มีการออกแบบที่หรูหรามากกว่า เคยเป็นที่พำนักชั่วคราวของ โชกุนโทคุกาวะที่นานครั้งจะมาเยือนเมืองนี้

ย่านกิออง อยู่ใกล้กับ ถนนชิโจะ-คะวะระมะจิ เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับชมศิลปะเก่าแก่และละครพื้นบ้าน ร้านอาหารแบบดั้งเดิมเรียงรายตามถนนเพิ่มความโดดเด่นให้กับบรรยากาศที่ละเอียดอ่อน และในย่านฮิงะชิยามะ มี วัดซันจูซันเก็นโดะ  สิ่งที่ทำให้วัดนี้เป็นที่รู้จักคือเจ้าแม่กวนอิมเทพีแห่งความเตตา ในปรางต่างๆที่ทำจากไม้ฉาบทอง มากถึง 1,001 ปราง 


นอกจากนี้ ที่ วัดคิโยะมิซึ ภายในมีระเบียงไม้ที่ยื่นออกมาเหนือหุบเขา ทำให้เห็นวิวเมืองได้โดยกว้าง และ วัดงิงคะคุหยิ หรือวัดพลับพลาเงิน รู้จักกันดี ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมที่ประณีต และความสวยงามที่ไม่สามารถบรรยายได้ของสวนในวัดนี้

พระราชวังคัตซึระ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกียวโต ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น และทิวทัศน์ของสวนที่สวยงาม รวมถึง พระราชวังชูงะกุอิน ซึ่งสร้างขึ้นในสตวรรษที่ 17 ภายใต้การปกครองของโชกุนโทคุกาวะ ในฐานะสถานพักฟื้นของ จักรพรรดิโกะ-มิซุโนะ จะเข้าชมที่นี่ได้จากตัวแทนสำนักพระราชวัง ควรจะยื่นคำร้องขออนุญาตเข้าชมล่วงหน้าหลายวันก่อนเยี่ยมชม


ย่านอะระชิยะมะ เพียง 20 นาทีโดยรถไฟจากตัวเมืองเกียวโต ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติขุนเขาและสายน้ำ วัดและร้านค้าต่างๆมากมาย จะเดินเที่ยวหรือปั่นจักรยานก็สามารถทำได้ มีทั้งเส้นทางรถไฟชมธรรมชาติด้วย

ทางตะวันตกของเมืองเกียวโต มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้ง วัดคินคะคุหยิ (วัดพลับพลาทอง) มีชื่อเสียง  และ วัดเรียวอันหยิ มีสวนหินที่ขึ้นชื่อ โดยใช้หินและทรายขาวออกแบบอย่างเรียบง่าย จำลองธรรมชาติไว้มุมหนึ่งในวัด

เมืองนารา (Nara) ห่างจากทางใต้ของเกียวโต 43 กิโลเมตร หรือ 30 นาที เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่นก่อนเมืองเกียวโต เป็นเมืองสำคัญที่รวบรวมเอาศิลปะ งานหัตถกรรม วรรณคดี และประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้


สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ใกล้กับสถานีนารา เป็น สวนสาธารณะนารา หรือที่รู้จักกันว่าเป็นสวนกวาง เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยของกวางเชื่อง


วัดโทไดหยิ  เป็นโบราณสถานที่มีชื่อเสียง มีวิหารไดบุทสึเด็นซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปใหญ่แห่งเมืองนารา ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ทางด้านตะวันตกเป็นที่ตั้งของ วัดโคฟุคุหยิ สร้างเมื่อปี 710 มีพระพุทธรูปที่มีค่ามากประดิษฐานอยู่ในสำนักมรดกแห่งชาติ ใกล้กันนั้นคือเจดีย์ห้าชั้น ตั้งริมน้ำซะรุซะวะ 

พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา ที่ซึ่งเก็บรวบรวมชิ้นงานศิลปะทางศาสนาพุทธทุกยุคทุกสมัย

ศาลเจ้าคะซึกะ ตั้งอยู่ด้านหลังวัดโทไดหยิ ที่สร้างขึ้นในปี 768 หนึ่งในศาลเจ้าลัทธิชินโตที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ศาลเจ้านี้เคลือบเงาสีแดงสดก่อให้เกิดความสวยงามตัดกับธรรมชาติที่แวดล้อมไปด้วยสีเขียว มีโคมหินประมาณ 1,800 โคม ตั้งเรียงเป็นทางยาวตลอดริมระเบียงทางเดิน

วัดโฮริวหยิ ที่ใช้เวลาเพียง 45 นาทีโดยรถไฟจากสถานีนารา ไม่เพียงแต่เป็นวัดที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่นเท่านั้น ยังเป็นวัดไม้ที่มีความสำคัญสวยงามมากจน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี 607 มีการบูรณะเพิ่มเติมอยู่กว่า 40 อาคาร นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย

ภูมิภาคกลาง ( จูบุ )



จูบุ เป็นภูมิภาคที่ตั้งเกือบกึ่งกลางของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่จะได้อยู่บนยอดเขาสูงของ "เจแปน แอลป์" ชายฝั่งทะเลที่ยังคงหลงเหลือความเก่าแก่และวิถีชิวิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นอยู่มาก อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางจนถึงชายฝั่งแปซิฟิก มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากของอุตสาหกรรมสมัยใหม่  มีความหลากหลายแตกต่างในหลายๆ ด้านที่ประกอบกันขึ้นเป็นภูมิภาคนี้


เมืองนาโงย่า (Nagoya) ในจังหวัดไอจิ อยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 1.50  ชม. เดินทางโดยรถไฟด่วนพิเศษสายโทไกโดชินคันเซน และ 1 ชม. จากชิน-โอซาก้า  ปัจจุบันเป็นเมืองแห่งปราสาทเก่าแก่ใหญ่อันดับที่สี่ของญี่ปุ่น มีการตัดเส้นทางที่ดี และถนนหลวงที่กว้างขวาง และขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเครื่องถ้วยชาม เครื่องปั้นดินเผาและ "ชิโบะริ- โซเมะ" หรือผ้ามัดย้อม งานศิลปะ และงานฝีมือต่างๆ ของญี่ปุ่น ใกล้กับใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของปราสาทนาโงย่า ซึ่งแต่เดิมเป็นกองบัญชาการกองทหารของตระกูลโทคุกาวะ และควรแวะชมพิพิธภัณฑ์โทคุกาวะ ที่ย่านซะกะเอะ ซึ่งรวบรวมสิ่งของต่างๆ มากกว่า 10,000 ชิ้นของตระกูลโทคุกาวะ

แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผา ตั้งอยู่ที่ เมืองเซโตะ (Seto) ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองนาโงย่า เดินทางโดยรถไฟเพียง 30 นาที เป็นศูนย์กลางของเหล่าผู้ประกอบการเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีเตาเผาแบบท้องถิ่น ทั่วทั้งเมืองจะพบร้านค้าต่างๆ ที่ขายเครื่องปั้นดินเผา โทโกนะเมะยากิ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมานาน

เมืองอินุยะมะ (Inuyama) ห่างจากนาโงย่าโดยรถไฟ 30 นาที เป็นเมืองที่รู้จักกันดีว่า เป็นที่ตั้งของปราสาทกำแพงขาวป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น

หมู่บ้านเมหยิ 90 นาทีโดยรถบัสจากนาโงย่า เป็นพิพิธภัณฑ์ตึกเก่ากลางแจ้งที่รวบรวมสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในสมัยเมจิ (1869-1912) เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจด้านสถาปัตยกรรมได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงเมืองนาโงย่า (Nagoya)

สวนสาธารณะอิเซะ-ชิมะ เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าใหญ่อิเซะ ในจังหวัดมิเอะ และแหล่งประมงเพาะเลี้ยงหอยมุกเพื่อผลิตไข่มุกตลอดแนวชายฝั่ง

ศาลเจ้าใหญ่อิเซะ ในจังหวัดมิเอะ (Mie) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีความเก่าแก่คงความศักดิ์สิทธิ์ เดินทางจากนาโงย่าโดยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. เป็นที่เคารพนับถือที่สุดในญี่ปุ่น ศาลเจ้าจะได้รับการบูรณะใหม่ทุก 20 ปี

เมืองโทบะ (Toba) เมืองท่าที่มีชื่อเสียง มี เกาะไข่มุกมิกิโมะโตะ เป็นเกาะแรกที่เพาะไข่มุกเทียมเป็นอุตสาหกรรมอันขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ห่างจากเมืองอิเซะเดินทาง 20 นาที โดยรถไฟ และ 1.50 ชม. โดยรถไฟจากนาโงย่า นอกจากนี้ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิชินโต คือ
"หินสมรส" เป็นหินสองก้อนที่เชื่อมด้วยเชือกเส้นโตอยู่กลางทะเล


เมืองทะกะยะมะ (Takayama) ในจังหวัดกิฟุ เดินทางโดยรถไฟด่วนจำกัดความเร็วจากนาโงย่า ใช้เวลา 2.10 ชม. เป็นเมืองที่มีบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ทะกะยะมะเต็มไปด้วยบรรยากาศของญี่ปุ่นโบราณ ตลอดทั้งเมืองจะให้ความรู้สึกเหมือนพิพิธภัณฑ์ จะมีสถานที่ดึงดูดความสนใจอยู่ตามจุดต่างๆ เป็นระยะ รวมทั้งหลากหลายพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ที่จัดแสดงงานฝีมือท้องถิ่นที่รวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ดีเยี่ยมในวิชาช่าง ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานของเมืองนี้
รายละเอียดเพิ่มเติม อยู่ในเว็บภาษาไทย http://www.hida.jp/thai/


หมู่บ้านชิระกะวะโก (Shirakawa - go) ห่างจากเมืองทะคะยะมะ 50 นาที โดยรถบัส เอกลักษณ์ของบ้านแต่ละหลัง เป็นหลังคามุงด้วยฟางข้าว สร้างขึ้นด้วยมือของชาวบ้านที่ร่วมแรงกันในชุมชน ความร่วมมือของทุกคนในหมู่บ้าน จึงเรียกว่า กัชโชทจึคุริ หมายถึงร่วมมือสร้าง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหมู่บ้านมรดกโลก บางแห่งสามารถเข้าพักค้างคืนได้ เปิดเป็นกิจการภายในครอบครัว นักท่องเที่ยวจะเห็นการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

 
เทือกเขาเจแปนเแอลป์ เป็นเทือกเขาที่มียอดภูเขาไฟทอดตัวต่อเนื่องกันยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ พาดผ่านศูนย์กลางของฮอนชูในแนวนอน เทือกเขาเจแปนแอลป์ มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับเทือกเขาแอลป์ทางยุโรป ในเรื่องความกระด้างและความสวยงาม ใจกลางทางเหนือของเทือกเขาเป็นที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติ จูบุ-ซังงะคุ

เมืองนะงะโนะ(Nagano) เป็นที่รู้จักทั่วโลก ในฐานะเจ้าภาพโอลิมปิคฤดูหนาวในปี 1998 บริเวณที่ราบสูงได้รับการจัดสรรให้เป็นที่เล่นสกีฤดูหนาวที่ยอดเยี่ยม และเหมาะแก่การเดินทางพักผ่อนชมวิวในฤดูร้อน


วัดเซนโกจิ ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองนะงะโนะ เมื่อ 1,400 ปีก่อน เคยได้รับยกย่องอย่างสูงให้เป็นศูนย์กลางความเชื่อแรกเริ่มของศาสนาพุทธ  อาคารหลักของวัดที่โอ่โถงถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ

หอคอยหลักของ ปราสาทไม้มะทสุโมะโตะ ที่ตั้งอยู่ในเมืองมะทสุโมะโตะ จังหวัดนะงะโนะมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ปราสาทอีกา" ตั้งตามสีดำของกำแพง ปราสาทนี้สร้างขึ้นในช่วงสงครามกลางเมือง จึงไม่มีการประดับประดามากนัก แต่กระนั้นก็ยังเปล่งประกายความสวยงามอย่างเรียบๆ และแสดงออกถึงความเป็นชาย

 
เมืองคะนะซะวะ (Kanazawa) ในจังหวัดอิชิกะวะ 3 ชม. โดยสารรถไฟด่วนจำกัดความเร็วจากนาโงย่าหรือโอซาก้า เป็นต้นกำเนิดเมืองที่มากด้วยปราสาท ที่คงไว้ซึ่งรสนิยมของต้นยุคศักดินา ในศตวรรษที่ 17-19  ความแพร่หลายของละครโนะ พิธีชงชา  และการจัดดอกไม้  เป็นผลมาจากยุคแห่งความวุ่นวาย ผู้คนจึงพากันหันหน้าเข้าหาความเพลิดเพลินใส่ตัว สวนสาธารณะเค็นโระคุเอ็ง ที่สร้างขึ้นในปี 1822 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคานาซะวะ เป็นที่รู้จักกันดีถึงความงามหนึ่งในสามสวนที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น  อีกสองแห่งได้แก่
สวนคะอิระคุ ใน เมืองมิโตะ และ สวนโคระคุเอ็ง ใน เมืองโอกะยะมะ
จากนั้นมุ่งหน้าสู่เมืองฟุกุอิ 1.30 ชม. โดยรถไฟจากคะนะซะวะซึ่งเป็นที่ตั้งของ วัดเออิเฮหยิ ได้รับการประกาศให้เป็นสำนักงานใหญ่ของนิกายโซโตะ ลัทธิเซน ก่อตั้งโดยพระโดเง็น (1200-1253) ผู้ซึ่งนำลัทธิเซนจากจีนเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น

ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองคะนะซะวะเป็น แหลมโนโตะ ที่ยื่นเข้าสู่ทะเลญี่ปุ่น แนวชายฝั่งทะเลยาว ทำให้มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ส่วนนอกชายฝั่งมีลักษณะพิเศษที่ความหยาบกระด้าง ในขณะที่ส่วนในของชายฝั่ง เรียงรายไปด้วยอ่าวและปากน้ำของหมู่บ้านประมงจำนวนมาก

เส้นทางสู่เทือกเขาแอลป์ทะเตยะมะ คุโรเบะ ในจังหวัดโทะยะมะ มีความสำคัญมาก เป็นเส้นทางชมวิวภูเขาที่คดเคี้ยวจาก สถานีทะเตยะมะ โดยรถไฟท้องถิ่นโทยะมะ-จิโฮะ ต่อรถบัส รถรางบัส หรือกระเช้าลอยฟ้า ผ่านใจกลางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์มายังสถานีปลายทาง สถานีชินะโนโอมะจิในจังหวัดนะงะโนะสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่สวยงามสูงถึง 3,000 เมตรที่ระดับความสูงของภูเขา ซึ่งเป็นธรรมชาติที่ห้อมล้อมด้วยเทือกเขาเจแปนแอลป์ อันกว้างใหญ่สวยงามมาก

เมืองนิอิงะตะ (Niigata) ใช้เวลา 2 ชม. จากโตเกียวเป็นบริเวณที่มีหิมะมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สามารถดึงดูดนักสกีจากทั่วทุกมุมโลกในช่วงฤดูหนาว

เกาะซาโดะ จากเมืองนิอิงะตะเดินทางโดยเรือไฮโดรฟอยล์ใช้เวลา 1 ชม. เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นลำดับที่ห้าในญี่ปุ่น มีไร่นาเล็กๆ ที่อุดมสมบูรณ์จำนวนมาก อยู่ระหว่างภูเขาสองลูกที่ตั้งขนานเชื่อมต่อกัน

ภูมิภาคตะวันออก (คันโต)




โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในเอเชีย เป็นแหล่งที่คงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันเก่าแก่หลายศตวรรษ ผสมผสานควบคู่ไปกับค่านิยมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และแสดงออกถึงความตื่นเต้น และความมีชีวิตชีวาที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว

พื้นที่ของเมืองโตเกียวนั้น มีอาณาบริเวณหนึ่งในสี่ส่วนของประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนประชากรที่ถูกต้องตามกฎหมายอาศัยอยู่ 12 ล้านคน

 
พระราชวังอิมพีเรียล แต่เดิมมีชื่อว่า พระราชวังเอะโดะ ซึ่งภายในล้อมรอบด้วยคูเมือง ประตูทางเข้าที่งดงาม และป้อมปราการเก่าแก่ตั้งอยู่ห่างกันเป็นช่วงๆ ทางเข้าหลักอยู่ใกล้กับนิจูบะชิ สะพานสองชั้น และจะเปิดให้คนภายนอกเข้าชมตามวาระพิเศษต่างๆ สวนตะวันออกฮิกาชิ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของหอคอยใหญ่ ภายในสวนงดงามไปด้วยดอกไม้หลากหลายพันธุ์ และจะผลิบานตามแต่ฤดูกาล เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการสถานที่พักผ่อนในอุดมคติ

จุดเด่นสำคัญของสถานีรถไฟโตเกียว มะรุโนะอุจิ ซึ่งเป็นเครื่องหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตึกมะรุโนะอุจิ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "มะรุ-บิรุ" สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1923 และมาเปิดใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2002 พร้อมกับตึก 36 ชั้น ภายในประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และสำนักงานมากมาย


จากนั้นเดินอีกสิบนาที ก็จะถึง ย่านกินซ่า (Ginza) ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกในฐานะแหล่งช้อปปิ้งชั้นเลิศ ซึ่งสว่างไสวไปด้วยไฟนีออนที่ละลานตา ที่ใกล้กันนั้นคือ โรงละครคะบุกิซ่า

หันหลังจากแสงสีอึกทึกครึกโครมของย่านกินซ่า และยูระคุโจ ยังมีย่านอุเอะโนะ จะมี สวนสาธารณะอุเอะโนะ ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ในช่วงต้นเดือนเมษายน สวนแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสวรรค์ของผู้ที่มาชมซากุระบาน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของแหล่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะและวัฒนธรรมอีกด้วย


ถ้าหากต้องการมองย้อนไปในอดีตของโตเกียว ก็ต้องที่ ย่านอะซะกุซะ (Asakusa) ซึ่งย่านนี้จะประกอบไปด้วยถนนสายเล็กๆจำนวนหลายสาย เต็มไปด้วยตึกและร้านค้าเก่าแก่ ซึ่งจะขายสินค้าพื้นเมืองอย่างชุดกิโมโนหรือหวีทำด้วยมือ

วัดอะซะกุซะ เต็มไปด้วยร้านค้าขายของพื้นมืองหลายหลาก สีสันสดใสตลอดสองข้างทาง เป็นแหล่งเลือกซื้อของที่ระลึกอย่างดีเยี่ยม


ย่านชินจุกุ (Shinjuku) แหล่งท่องเที่ยวทันสมัยฝั่งตะวันตกของโตเกียว เป็นแหล่งช้อปปิ้ง และสถานบันเทิงยามค่ำคืนยอดนิยมที่มีชื่อเสียง  ยามกลางวันแวะชม สวนสาธารณะชินจุกุเกียวเอ็น ที่เงียบสงบ ใกล้ๆ กันนั้นใน ย่านฮะทจึได เป็นที่ตั้งโรงละครโอเปร่าเต็มรูปแบบ


ย่านชิบุยะ (Shibuya) เป็นศูนย์กลางแฟชั่นและวัฒนธรรมสมัยใหม่ของวัยรุ่น ใกล้กับ ศาลเจ้าเมจิ ที่เงียบสงบ ติดต่อกันเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมและสวรรค์ของคนรุ่นใหม่คือ ย่านฮะระจุกุ และ ย่านอะโอะยะมะ 

 
ย่านโอไดบะ (Odaiba) สร้างขึ้นจากการถมทะเลในอ่าวโตเกียว เป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ มีทั้งแหล่งบันเทิงขนาดใหญ่ ที่มีชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ
เรนโบว์ ทาวน์ เหล่าคู่รักวัยรุ่นนิยมนั่งชิงช้าสวรรค์ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม มีทั้งสวนสนุกของบ่อน้ำแร่ โอเอโดะ-ออนเซ็น โมโนงะตะริ ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์อาบน้ำแร่ในทุกรูปแบบที่นี่ 

สถานที่เที่ยวในจังหวัดที่ใกล้เมืองโตเกียว 

โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท ในจังหวัดชิบะสวนสนุกยอดนิยมที่สุดในญี่ปุ่น ใกล้สถานีไมฮะมะ ใช้เวลาเพียง 20 นาที จากสถานีรถไฟโตเกียว โดยรถไฟฟ้าสายเจอาร์เคโย

เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) ในจังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น จากโตเกียวใช้เวลา 30 นาที เคยเป็นเมืองท่าสำคัญที่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ ตั้งแต่การปฏิรูปสมัยเมจิ (1868-1911) และเต็มไปด้วยอาคารมีชื่อในประวัติศาสตร์จำนวนนับไม่ถ้วน รวมถึง สวนซังเคอิ-เอ็ง


ย่านมินะโมโตะ มิระอิ 21 ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าว เป็นที่นิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่นิยมบรรยากาศริมทะเล สำหรับนักชิมอาหารอร่อย ก็ต้องที่ ไชนาทาวน์ ในโยโกฮาม่า มีร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย

เมืองหลวงเก่าคะมะคุระ เดินทางโดยรถไฟห่างจากโตเกียว 1 ชมอยู่ใกล้ชายทะเล มีวัดที่เงียบสงบมาก ประกอบกับตัวเมืองเก่า ที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งมรดกทางโบราณสถาน ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมาย สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดคือ พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ "ไดบุทจึ" สูง 11.4 เมตร หนัก 122 ตัน ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ณ. วัดฮะเซเดระ ยัง มี ศาลเจ้า ทซึรุกาโอกะ ฮาจิมังกุ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปมากมายหลายองค์ ทั้งใหญ่และเล็กทั่วบริเวณ 

 
อุทยานแห่งชาติฮะโกะเนะ อิซุ (Hakone) เดินทางโดยรถไฟจากสถานีโอดะคิว ใกล้สถานีชินจุกุในโตเกียว ใช้เวลา 1.30 ชม. ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำพุร้อน มีทะเลสาบอาชิ ที่สามารถล่องเรือชมวิว  ระหว่างทางมี พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งแสดงรูปปั้นแกะสลักอยู่เป็นจำนวนมาก และ หุบเขาน้ำแร่กำมะถัน โอวาคุดะนิ เป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้าที่แวะเที่ยวได้

ภูเขาฟูจิ มีความสูง 3,776 เมตร ซึ่งไม่ใช่เพียงสูงที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น และเป็นต้นกำเนิดของธรรมชาติหลายๆ แห่งรวมถึงทะเลสาบฟูจิทั้งห้า เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกิจกรรมเดินป่าและไต่เขา ฤดูที่เหมาะสำหรับการไต่เขาเป็นช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม

คาบสมุทรอิซุ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฮะโกะเนะ เป็นสถานที่ที่จัดไว้สำหรับแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ และ เทือกเขาอะมะหงิ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำตก

เกาะทั้ง 7 แห่งอิซุ เป็นสถานที่พักผ่อน ที่ผสมผสานระหว่างวิวทะเลที่สวยงามกับบ่อน้ำพุร้อน เข้าไว้ด้วยกัน อย่างเช่น เกาะโอชิม่า เป็นสถานที่พักผ่อนที่สามารถเดินทางมาถึงได้อย่างง่ายๆ เพียง 1.45 ชม. โดยเรือด่วนจากโตเกียว สามารถเที่ยวแบบไปกลับได้ภายในหนึ่งวันบ่อน้ำพุร้อนคุซะทจึ  ในจังหวัดกุมมะ (Gumma) เป็นสปารีสอร์ทที่ติดอันดับต้นแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เดินทางจากโตเกียวโดยรถบัส ใช้เวลาไม่ถึง 4 ชม. น้ำแร่ของที่นี่มีความเป็นกรดสูง สามารถกร่อนเหรียญดอลลาร์ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์


เมืองนิกโก้ (Nikko) ในจังหวัดโทะจิงิ เดินทางเพียง 2 ชม. โดยรถไฟจากโตเกียว เป็นอัญมณีแห่งธรรมชาติและสถานที่สำคัญของการบวงสรวงภูเขาแต่ครั้งโบราณ จึงมีการสร้าง ศาลเจ้าโทโชงุ ขึ้น  เป็นสถาปัตยกรรมที่แปลกไปจากสถาปัตยกรรมทั่วไปของญี่ปุ่น แสดงออกถึงความมั่งคั่ง และการประดับประดาซับซ้อนสวยงามมาก  จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม นิกโก้เป็นสุสานโบราณของโทคุกะว่า อิเอยะซึ ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกของรัฐบาลยุคเอโด นอกจากนี้ยังมี น้ำตกเคง่อน และ ทะเลสาบจูเซนหยิ ที่มี วัดจูเซนหยิ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ อีกทั้ง ภูเขานันไต ที่สง่างามต้อนรับผู้มาเยือนทุกฤดูกาล ส่วนลึกเข้าไปเป็นที่พักแบบมีบริการอาบน้ำแร่ธรรมชาติ ย่านคินุกะวะออนเซน สวนสนุกเอโดมุระ ที่เป็นหมู่บ้านจำลองยุคเอโด และโทบุเวิลด์สแควร์ ที่จำลองสิ่งก่อสร้างทั่วโลกให้ได้ชมอย่างสมจริง จึงถือได้ว่าการได้เที่ยวนิกโก้ก็เพียงพอแล้ว เพราะได้สัมผัสครบถ้วนทั้งธรรมชาติ โบราณสถาน และบรรยากาศการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ