วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โทโฮะกุ)




สำหรับภูมิภาคโทโฮะกุ จะได้พบกับสถานที่ดึงดูดใจอันหลากหลายของที่ราบสูง มีภาพลักษณ์ภายนอกแบบชนบท ที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ เป็นการผสมผสานกัน ระหว่างโลกแห่งธรรมชาติที่สดใส ผู้คนเป็นมิตรจริงใจ รวมถึงงานเทศกาลรื่นเริง และตื่นตาตื่นใจตลอดช่วงสั้นๆ ของฤดูร้อน
 
ทางเหนือของเกาะฮอนชูคือภูมิภาคโทโฮะกุ เป็นภูมิภาคที่มีอากาศเย็นสดชื่นตลอดแม้ในฤดูร้อน อุณหภูมิบริเวณที่ราบสูงประมาณ 10 องศาเซลเซียส มีบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติอยู่ทั่วทุกที่ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั่วทั้งญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการอาบน้ำพุร้อน ให้มาเยี่ยมเยือน บ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้มีคุณสมบัติในการรักษา และบำบัดโรคมายาวนาน

 
ประตูสู่ชายฝั่งแปซิฟิกคือ เมืองเซนได (Sendai) จากโตเกียวเดินทางโดยรถไฟด่วนพิเศษชินคันเซน ใช้เวลา 2 ชม. จากเมืองเซนได สามารถเดินทางไป มะทสุชิมะ โดยรถไฟสายเจอาร์เซนเซขิ เพียง 40 นาที เป็นชายฝั่งทะเลชมวิวที่มีชื่อเสียงเป็นหนึ่งในสามสถานที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น จะเห็นทิวทัศน์ของอ่าว ที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยกระจัดกระจายอยู่มากมาย มีบริการเรือท่องเที่ยวรอบอ่าว เพื่อชมวิวได้รอบทิศ

เมืองฮิระอิซุมิ (Hiraizumi) ห่างจากเมืองเซนได1.30 ชม. โดยรถไฟ แต่เดิมเป็นแม่แบบของเมืองเกียวโต และยังเป็นสถานที่ตั้งของ วัดจูซอนหยิ ที่มีชื่อเสียง สร้างขึ้นในปี 1109 ภายในวัด มีวิหารทองคำ คอนจิกิโด ที่ตัววิหารเคลือบดำและชุบทองทับ ซึ่งแต่เดิมวิหารนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปถึง 11 องค์

 
เมืองอะโอะโมะริ (Aomori) ใช้เวลา 2.5 ชม. เดินทางโดยรถไฟด่วนจำกัดความเร็วจากโมะริโอะกะ เริ่มต้นการเดินทางจาก ทะเลสาบโทวาดะ และ หุบเขาโออิระเซะ ใจกลางหุบเขาคือ อุทยานแห่งชาติ
โทวาดะ-ฮะจิมังไต กลางอุทยานมีทะเลสาบโทวาดะ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีเสน่ห์ที่สุดในญี่ปุ่น ทางตะวันออกของชายฝั่งมี หุบเขาโออิระเซะทอดยาวถึง 14 กม. หากเดินท่องไปตามริมช่องแคบ ระหว่างหุบเขาที่เต็มไปด้วยป่าทึบ จะพบกับทิวทัศน์ของลำธารกระจ่างใส อีกทั้งน้ำตกน้อยใหญ่

โบราณสถานของซันนะอิ-มารุยะมะ ซึ่งใช้เวลาเพียง 30 นาทีจากใจกลางเมือง อะโอะโมะริโดยรถบัส ย้อนกลับไปประมาณ 4,000–5,000 ปีที่แล้ว เคยเป็นที่อยู่อาศัยของ ชุมชนโจมง ที่นี่เป็นโบราณสถานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ปัจจุบันได้รับการบูรณะและเปิดให้ประชาชนเข้าชม
นอกจากนี้ที่อะโอะโมะริยังมีงาน เทศกาลเนบุตะ ซึ่งจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม เป็นงานเทศกาลที่โด่งดัง เปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ที่ดึงดูดผู้คนที่มีใจรักความสนุกสนาน ได้จากทั่วทุกสารทิศเลยทีเดียว

 
เมืองฮิโระซะกิ (Hirosaki) เดินทางโดยรถไฟด่วนจำกัดความเร็วจากอะโอะโมะริ ใช้เวลา 30 นาที ในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ปราสาทฮิโระซะกิ และบริเวณโดยรอบจะมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยซากุระบานสะพรั่งกว่า 5,000 ต้น

เทือกเขาชิระคะมิ-ซันจิ เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวอยู่ระหว่างเมืองอะโอะโมะริกับเมืองอะกิตะ บนเทือกเขามีป่าบีชขนาดใหญ่ ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคเก่าก่อน เป็นโลกแห่งธรรมชาติที่ยังคงดำรงรักษาเอาไว้ บริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่สำหรับไต่เขาโดยเฉพาะอีกด้วย

เมืองอะกิตะ (Akita) ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชม. โดยรถไฟด่วนพิเศษสายอะกิตะชินคันเซน ที่นี่จะมี งานเทศกาลคันโต ในเดือนสิงหาคม เป็นเทศกาลแห่งโคมไฟในฤดูร้อนที่มีชื่ออีกเทศกาลหนึ่งของภูมิภาคโทโฮะกุ

เมืองคะกุโนะดาเตะ (Kakunodate) จากอะกิตะใช้เวลา 75 นาทีโดยรถไฟด่วนพิเศษสายอะกิตะชินคันเซน เป็นเมืองประวัติศาสตร์ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าซามุไร ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ และภัตตาคารเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ในฤดูใบไม้ผลิเมืองนี้จะงานสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระทั้งเมือง

 
เมืองยะมะงะตะ (Yamagata) 3 ชม.เดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซน เมืองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอาบน้ำแร่และสกีฤดูหนาวในแถบ เทือกเขาซาโอะ มี ทะเลสาบซาโอะ "โอคะมะ" ที่เกิดจากการยุบตัวของปากปล่องภูเขาไฟเป็นหลุมคล้ายหม้อ ปริ่มไปด้วยน้ำสีเขียวใสสว่างเหมือนมรกต เป็นสถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด

เมืองไอซุ วะกะะมะทสุ (Aizuwakamatu) เป็นเมืองเก่าที่มีปราสาททสุรุงะ สามารถนั่งรถไฟด่วนชินคันเซน โดยใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. นอกจากนี้ยังมี ภูเขาบันได ซึ่งมีเส้นทางเหมาะที่จะนั่งรถชมใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง และ ทะเลสาบอินาวะชิโระ และสกีรีสอร์ทในฤดูหนาวด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น